Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอล
วิเคราะห์บอล
เว็บบอร์ด
วิธีการเลือกกีตาร์โปร่ง
วิธีการเลือกกีตาร์โปร่ง
เราควรเลือกกีตาร์โปร่งให้เหมาะกับระดับของผู้เล่น โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ผู้เล่นมือใหม่ ผู้เล่นระดับกลาง และมือโปรหรือผู้เล่นระดับมืออาชีพ
1
เลือกทรงและขนาดกีตาร์โปร่งเหมาะกับขนาดตัว วัสดุไม้ลามิเนต และสายไนล่อน สำหรับผู้เล่นมือใหม่
เลือกทรงและขนาดกีตาร์โปร่งเหมาะกับขนาดตัว วัสดุไม้ลามิเนต และสายไนล่อน สำหรับผู้เล่นมือใหม่
สำหรับผู้เล่นมือใหม่ เลือกทรง OM, ทรง 3/4 หรือทรง D ตามขนาดตัวผู้เล่น ซึ่งมีขนาด 36" หรือ 39 - 40" สำหรับทรง OM, D และใช้วัสดุไม้ลามิเนตที่เป็นรุ่นหรือยี่ห้อเหมาะกับมือใหม่ พร้อมกับสายเหล็กเบอร์ 10
เลือกทรง OM, ทรง 3/4 หรือทรง D ตามขนาดตัวผู้เล่น
สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยจับกีตาร์โปร่งมาก่อนหรืออยู่ในระดับพื้นฐาน ควรเลือกกีตาร์ทรง OM หรือ Orchestra Model หรือทรง 3/4 ซึ่งเป็นทรงยอดนิยม เพราะมีขนาดเล็ก เล่นง่าย ถือหรือจับง่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กและผู้หญิงรูปร่างเล็ก หรือเราอาจเลือกใช้กีตาร์ทรง D หรือ Dreadnought ก็ได้ โดยทรง D เป็นรูปทรงมาตรฐานทั่วไปที่เหมาะกับการใช้งานทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่มีความสูงประมาณ 152 ซม. ขึ้นไป หรือตั้งแต่วัยประมาณมัธยมต้นหรือมัธยมปลายขึ้นไป โดยทั้ง 3 ทรงนี้อาจมีรายละเอียดเสียงที่แตกต่างกันเล็กน้อยเนื่องจากมีลักษณะของบอดี้ที่แตกต่างกัน แต่ให้เสียงที่ไพเราะและเหมาะกับมือใหม่ที่หัดเล่นกีตาร์โปร่งได้เหมือนกัน
เลือกขนาด 36" หรือ 39 - 40" สำหรับทรง OM, D ตามขนาดตัวผู้เล่น
นอกจากการเลือกทรงกีตาร์ให้เหมาะสมสำหรับขนาดตัวและระดับการเล่นแล้ว เราควรเลือกขนาดของกีตาร์ประกอบด้วยเช่นกัน เพราะหากเราเลือกซื้อกีตาร์โปร่งที่ใหญ่เกินตัวเกินไปทำให้เล่นลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมือใหม่ที่ยังไม่คุ้นชินกับการเล่นกีตาร์มากนัก หากใครเลือกกีตาร์ทรง 3/4 จะมีความยาวประมาณ 36" อยู่แล้ว ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ไม่มีพื้นฐาน เด็ก และผู้หญิงที่มีรูปร่างเล็ก แต่หากเลือกทรง OM โดยปกติแล้วจะมีความยาวประมาณ 40" แต่มีบอดี้และเอวกีตาร์ที่เล็กกว่าทรง D ส่วนใครที่เลือกทรง D ที่เป็นทรงมาตรฐานจะมีความยาวประมาณ 39 - 40" เราควรเลือกจากขนาดตัวผู้เล่นเป็นหลัก
เลือกวัสดุไม้ลามิเนตที่เป็นรุ่นหรือยี่ห้อเหมาะกับมือใหม่
ดยปกติแล้วกีตาร์โปร่งประกอบขึ้นจากไม้ท็อป ไม้ข้างและไม้หลัง โดยวัสดุมีผลกับเสียงของกีตาร์เป็นอย่างมาก ซึ่งวัสดุของกีตาร์โปร่งสำหรับมือใหม่ควรเป็นไม้ลามิเนตเพราะมีราคาถูก และให้คุณภาพเสียงได้เหมาะสมกับระดับเริ่มต้น โดยเราสามารถเลือกได้ทั้งกีตาร์ที่ไม่ใช่ยี่ห้อดังหรือยี่ห้อดังและมีมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม หากเลือกใช้กีตาร์ที่ไม่ใช่ยี่ห้อดังอาจดูส่วนประกอบอื่น ๆ ของกีตาร์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นความสูง-ต่ำของสายซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ให้มือใหม่เล่นกีตาร์ได้ง่ายมากขึ้น รุ่นที่แนะนำ เช่น กีตาร์โปร่ง Yamaha F310
เลือกสายกีตาร์โปร่งเหล็กเบอร์ 10
มือใหม่ควรเลือกใช้สายกีตาร์โปร่งที่เป็นสายเหล็ก โดยเลือกเบอร์ 10 ซึ่งเบอร์สายกีตาร์ยิ่งน้อยหมายความว่าขนาดของสายจะยิ่งเล็กลง ทำให้จับง่าย เล่นง่าย และไม่รู้สึกเจ็บนิ้วง่าย ซึ่งเบอร์ 10 เพียงพอสำหรับการเล่นของมือใหม่หรือในระดับพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรใช้สายกีตาร์ไนลอนหรือสายเอ็นที่ใช้ในกีตาร์คลาสสิกมาใช้กับกีตาร์โปร่ง เนื่องจากลักษณะของสายและบริดจ์ที่ยึดสายไม่เหมือนกัน อีกทั้งแรงดึงและการสั่นสะเทือนของสายกีตาร์แตกต่างกัน
2
เลือกกีตาร์โปร่งไม้หน้าแท้ สายเหล็กเบอร์ 10 - 12 และคอกีตาร์แบบ C หรือ U สำหรับผู้เล่นระดับกลาง
สำหรับผู้เล่นระดับกลาง ควรเลือกไม้หน้าแท้วัสดุไม้สปรูซให้สอดคล้องกับไม้ข้างและไม้หลัง ใช้สายเหล็กเบอร์ 10 - 12 ตามระดับผู้เล่นหรือแนวเพลง และเลือกคอกีตาร์โปร่งแบบ C หรือ U
เลือกไม้หน้าแท้วัสดุไม้สปรูซให้สอดคล้องกับไม้ข้างและไม้หลัง
ผู้เล่นระดับกลางที่มีพื้นฐานในการเล่นมาแล้วระยะหนึ่งหรือสามารถเล่นกีตาร์ได้คล่องแล้วอาจมองหากีตาร์โปร่งที่ใช้วัสดุคุณภาพดีเพื่อให้มีเสียงที่ดีมากขึ้น เราขอแนะนำให้เลือกกีตาร์โปร่งที่ใช้ไม้หน้าแท้หรือ Top Solid แผ่นเดียวที่ทำจากวัสดุไม้สปรูซเป็นหลัก และพิจารณาไม้ข้างและไม้หลังตามเสียงที่ต้องการ เพราะเสียงที่เป็นคาแรกเตอร์หรือลักษณะเฉพาะของกีตาร์แต่ละตัวเกิดจากไม้ท็อป รวมกับไม้ข้างและไม้หลัง หากมีงบประมาณ อาจเลือกไม้ข้างหรือไม้หลังไม้โรสวูดที่ให้เสียงพุ่ง คมชัด และแหลมสดใส หรืออาจเลือกไม้มะฮอกกานีที่จะให้เสียงซอฟต์กว่าเมื่อสตรัมกีตาร์กับเครื่องดนตรีชนิดอื่น
เลือกสายกีตาร์โปร่งเหล็กเบอร์ 10 - 12 ตามระดับผู้เล่นหรือแนวเพลง
สำหรับผู้เล่นระดับกลางซึ่งคุ้นชินกับการเล่นหลากหลายแนวเพลงหรือมีสไตล์ในการเล่น ควรเลือกใช้สายเหล็กที่มีขนาดตามระดับของผู้เล่นเองหรือตามแนวเพลงที่ต้องการ ผู้เล่นระดับกลางอาจเลือกใช้สายเหล็กเบอร์ 11 หรือ 12 ที่ใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อสร้างไดนามิกและให้เสียงที่ดังกว่า แต่หากใช้เพื่อขึ้นโชว์บนเวทีติดต่อกันหลายเพลงหรือเล่นต่อเนื่อง ควรใช้เบอร์เล็ก เช่น เบอร์ 10 เพราะยิ่งใช้สายเบอร์ใหญ่ยิ่งทำให้ใช้แรงเยอะมากขึ้นและเจ็บนิ้วง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเล่นติดต่อกันเป็นเวลานาน
เลือกคอกีตาร์โปร่งแบบ C หรือ U
คอกีตาร์เป็นส่วนสำคัญที่ผู้เล่นระดับกลางอาจต้องพิจารณาอีกหนึ่งจุด เพราะมีผลกับการเล่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขึ้นบนเวทีหรือเล่นเป็นระยะเวลานาน โดยเราควรเลือกคอกีตาร์รูปทรงตัว C เป็นหลัก เพราะมีส่วนโค้งรับกับอุ้งมือมากกว่า อีกทั้งยังบางกว่า ช่วยให้จับได้ง่ายกว่า เมื่อเล่นแล้วไม่รู้สึกเมื่อยง่าย นอกจากนี้ เราอาจเลือกคอกีตาร์รูปทรงตัว U ที่มีความหนามากกว่า ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ทั้ง 2 รูปทรงได้ตามความถนัด
3
เลือกกีตาร์โปร่งวัสดุคุณภาพสูงตามสถานที่และการใช้งาน สำหรับผู้เล่นระดับมืออาชีพ
ผู้เล่นกีตาร์ในระดับมืออาชีพโดยส่วนใหญ่แล้วจะเลือกกีตาร์ตามคาแรกเตอร์ของเสียงหรือสไตล์การเล่นเป็นหลัก แน่นอนว่าจะต้องพิจารณาเรื่องของขนาดและรูปทรงที่เกี่ยวข้องกับเสียงที่ต้องการ ส่วนวัสดุเน้นเป็น Top Solid ไม้แท้เกรดสูง เพราะไม้แท้ตอบสนองการดีดได้ดีกว่าไม้ลามิเนต อีกทั้งยังให้เสียงดัง พุ่งชัด และย่านเสียงที่ได้มีระเบียบมากกว่า และหากมีงบประมาณสูงอาจเลือกแบบ All Solid ที่ทำขึ้นจากไม้แท้ชิ้นเดียว
นอกจากคุณสมบัติต่าง ๆ ของกีตาร์แล้ว ผู้เล่นมืออาชีพอาจพิจารณาสถานที่ในการเล่นด้วย ถ้าใช้กีตาร์โปร่งเพื่อการอัดเสียงในสตูดิโอ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเลือกกีตาร์โปร่งเกรดสูง เช่น 3A ไม้สปรูซเกรดสูงสุดที่มีความแข็งและละเอียด ทำให้เสียงที่ได้จะสะท้อนดี คมชัด เหมาะกับงานเสียงที่ใช้คุณภาพเสียงหรือการอัดเสียง แต่หากเป็นการแสดงหรือใช้นอกสถานที่ต่าง ๆ อาจเลือกกีตาร์โปร่งที่มีเกรดวัสดุรองลงมาเนื่องจากต้องเจอสภาพแวดล้อมและปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกับตัวกีตาร์ที่มีราคาแพงมากกว่า
4
ตรวจสอบความสูง-ต่ำของสายกีตาร์ (แอคชัน) ให้เหมาะกับผู้เล่นและวัสดุสาย
ความสูง-ต่ำของสายกีตาร์หรือแอคชั่นเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ เพราะแม้ว่าจะใช้สายเบอร์เล็กอย่างเบอร์ 10 แล้ว แต่หากกีตาร์ตัวนั้นมีแอคชันสูงหรือมีระยะห่างระหว่างเฟรตและสายกีตาร์มาก จะทำให้ผู้เล่นต้องออกแรงกดสายเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เจ็บนิ้วมากขึ้น ดังนั้น เราควรเลือกกีตาร์โปร่งที่มีความสูง-ต่ำของสายกีตาร์น้อย เพื่อให้เล่นได้ง่ายขึ้น ไม่รู้สึกเจ็บนิ้วง่าย ออกแรงน้อย มาตรฐานความสูงที่เราควรเลือกคือดังต่อไปนี้
กีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ เน้นการตีคอร์ด เช่น ทรง D, ทรง Grand Orchestra, ทรง Grand Symphony
สายที่ 1 : เฟร็ตที่ 1 ประมาณ 0.48 มม. / เฟร็ตที่ 12 ประมาณ 1.52 - 1.78 มม.
สายที่ 2 - 3 : เฟร็ตที่ 1 ประมาณ 0.56 มม. / เฟร็ตที่ 12 ประมาณ 1.52 - 1.78 มม.
สายที่ 4 - 5 : เฟร็ตที่ 1 ประมาณ 0.56 มม. / เฟร็ตที่ 12 ประมาณ 2.29 - 2.54 มม.
สายที่ 6 : เฟร็ตที่ 1 ประมาณ 0.64 มม. / เฟร็ตที่ 12 ประมาณ 2.29 - 2.54 มม.
กีตาร์ที่มีขนาดเล็ก เน้นการเล่น Finger Style เช่น ทรง Grand Concert, ทรง Grand Auditorium
สายที่ 1 : เฟร็ตที่ 1 ประมาณ 0.48 มม. / เฟร็ตที่ 12 ประมาณ 1.27 - 1.52 มม.
สายที่ 2 - 3 : เฟร็ตที่ 1 ประมาณ 0.56 มม. / เฟร็ตที่ 12 ประมาณ 1.27 - 1.52 มม.
สายที่ 4 - 5 : เฟร็ตที่ 1 ประมาณ 0.56 มม. / เฟร็ตที่ 12 ประมาณ 2.03 - 2.29 มม.
สายที่ 6 : เฟร็ตที่ 1 ประมาณ 0.64 มม. / เฟร็ตที่ 12 ประมาณ 2.03 - 2.29 มม.
หรืออาจวัดง่าย ๆ โดยใช้เหรียญ 10 บาทสอดเข้าไปที่เฟร็ตที่ 12 และตั้งความสูงของสายในเฟร็ตที่ 12 เท่ากันกับเหรียญ 10 บาทนั่นเอง ซึ่งเป็นความสูงพอดีที่เล่นได้สบาย นอกจากนี้ เราอาจพิจารณาดูจากตัวกีตาร์ หรือให้ช่างหรือพนักงานเป็นผู้ปรับความสูงของสายกีตาร์ด้วยก็ได้
5
เลือกกีตาร์โปร่งที่มี Cutaway เมื่อเล่นคอร์ดลึกหรือโซโล่
Cutaway คือ ชายเว้ากีตาร์ที่อยู่ด้านบนรูตรงกลางกีตาร์ (Sound Hole) ของกีตาร์โปร่ง ส่วนนี้ถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้ผู้เล่นวางนิ้วหรือเล่นโน้ตในเฟรตด้านในหรือเล่นคอร์ดลึก ๆ ได้ เมื่อพิจารณาจากกีตาร์โปร่งปกติที่ไม่มี Cutaway เราสามารถจับคอร์ดได้ถึงประมาณเฟรตที่ 12 - 14 แต่กีตาร์ที่มี Cutaway จะทำให้เล่นในเฟรตที่มากกว่านั้นได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเล่นคอร์ดที่อยู่ลึกหรือการเล่นโซโล่เป็นหลัก และเหมาะกับผู้เล่นในระดับกลางหรือระดับมืออาชีพครับ
6
ตรวจสอบกระเป๋าและสแตนด์ที่ใช้งานร่วมกับกีตาร์โปร่ง
เราควรเลือกซื้อกีตาร์โปร่งร่วมกันกับกระเป๋าและสแตนด์โดยพิจารณาจากการเล่นและการจัดเก็บที่แตกต่างกันไปในแต่บุคคล หากใครหยิบจับมาเล่นหรือฝึกซ้อมบ่อย ควรเลือกซื้อสแตนด์วางกีตาร์ เพราะนอกจากจะช่วยให้จัดเก็บได้เป็นระเบียบแล้ว ยังช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ อีกทั้งยังช่วยปกป้องกีตาร์ได้ในระดับหนึ่งเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ส่วนกระเป๋ากีตาร์อาจเลือกซื้อได้ตามงบประมาณหรือระดับของผู้เล่น สำหรับผู้เล่นมือใหม่ที่พกพาเพื่อไปเรียนและกีตาร์มีราคาไม่สูงนักอาจเลือกกระเป๋าใส่กีตาร์เพื่อให้หิ้วได้สะดวก แต่ผู้เล่นระดับกลางหรือสูงที่ใช้วัสดุดีขึ้น อาจเลือกใช้กระเป๋าวัสดุแข็งที่ช่วยปกป้องกีตาร์ได้มากกว่า
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : ขั้นเทพ
เมื่อ 17 มิ.ย. 2567 12:57:49 น. อ่าน 35 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์