linepollball.com
Menu

10 ที่เที่ยวจันทบุรี หลากหลายความสนุก อยากเที่ยวแบบไหนจัดเลย


เริ่มกันกับสถานที่แรกคือ "อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ" เป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำจันทบุรี เนื่องจากสภาพป่าในบริเวณนี้มีหลากหลายและอุดมสมบูรณ์รวมทั้งมีพันธุ์ไม้หายากจำนวนมาก ซึ่งภายในยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ "น้ำตกกระทิง" มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาคิชฌกูฏ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มี 13 ชั้น, "ยอดเขาพระบาท" ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาคิชฌกูฎ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่นำมาผูกกับตำนานทางพระพุทธศาสนา โดยสามารถชมทิวทัศน์ของเทือกเขาสระบาป เขาสุกิม เกาะนมสาว และตัวเมืองจันทบุรีได้

  ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ บริเวณท่าเรือแหลมสิงห์ ใกล้กับคุกขี้ไก่ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 30 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2436 เดิมเป็นที่ตั้งของป้อมพิฆาตปัจจามิตร ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ต่อมาเมื่อฝรั่งเศสเข้ายึดเมืองจันทบุรีได้รื้อป้อมแห่งนี้ลง และสร้างตึกแดงขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักและกองบัญชาการทหารฝรั่งเศส เป็นตึกชั้นเดียว สีแดง หลังคามุงกระเบื้อง และเปิดให้เข้าชมทุกวันในเวลา 08.30-16.30 น.

 ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2436 ตั้งอยู่ใกล้กับตึกแดง เมื่อฝรั่งเศสได้เข้ายึดจันทบุรีในกรณีพิพาท เรื่องดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ฝรั่งเศสได้สร้างคุกขี้ไก่เพื่อใช้กักขังคนไทยที่ต่อต้านฝรั่งเศส มีลักษณะเป็นหอสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็ก ผนังก่ออิฐ มีช่องระบายอากาศอยู่สองแถว หลังคาโปร่ง เล่ากันว่าเป็นคุกที่ทรมานมาก เพราะชั้นบนใช้เป็นที่เลี้ยงไก่ ซึ่งจะถ่ายมูลราดศีรษะนักโทษที่ถูกคุมขังตลอดเวลา

ตั้งอยู่ที่ถนนท่าหลวง ภายในประกอบด้วยอาคารเก่าแก่หลายแห่งมีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบยุโรป นั่นก็เพราะว่าที่นี่เคยเป็นที่ตั้งค่ายกองกำลังของทหารฝรั่งเศสในช่วง ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทหารฝรั่งเศสได้สร้างอาคารไว้หลายหลัง เช่น อาคารกองรักษาการณ์ทหารฝรั่งเศส, อาคารที่คุมขัง, อาคารกองบัญชาการทหาร, อาคารคลังพัสดุ, อาคารที่พักทหารรักษาการณ์ฝรั่งเศส, อาคารซ่อมบำรุงและสรรพาวุธ, คลังกระสุนปืนดินดำ เป็นต้นการเข้าเที่ยวชมค่ายตากสิน จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมเฉพาะในโซนศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและอาคารโบราณสถานต่าง ๆ เท่านั้น เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถนำรถเข้าไปจอดบริเวณด้านในค่ายได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง โทรศัพท์ 0 3865 5420

ตั้งอยู่บริเวณบ้านท่าสอน ตำบลบ่อ อำเภอขลุง มีพื้นที่ 120,000 ไร่ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 18 กิโลเมตร บนเส้นทางถนนสุขุมวิท ประมาณ กิโลเมตร ที่ 374-375 เป็นป่าชายเลนลุ่มน้ำเวฬุ อยู่ในความดูแลของสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 (ท่าสอน จันทบุรี) ป่าชายเลนมีพันธุ์ไม้หลายชนิด เช่น โกงกาง แสม ลำพู แต่ละจุดแสดงจะมีป้ายสื่อความหมายไว้ โดยไฮไลท์อีกหนึ่งอย่างของที่นี่คือการชมหิ่งห้อยในป่าชายเลน โดยไม่ต้องลงเรือ เพราะมีถนนคนเดินยาว 2 กิโลเมตรครึ่ง ลดเลี้ยวเข้าไปในป่าชายเลน มีหิ่งห้อยนับแสนตัวเปล่งแสงระยิบระยับตลอดสองข้างทาง มีที่จอดรถกว้างขวางก่อนจะเข้าป่าชายเลน


  ย่านท่าหลวงตั้งอยู่ที่ถนนท่าหลวง ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง เป็นย่านการค้าเก่าของเมืองจันทบูรณ์ ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี เป็นชุมชนย่านเก่าแก่ของจีนและญวนมาตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ และรุ่งเรืองมากในสมัยรัชกาลที่ 5 สามารถเดินเที่ยวชมบรรยากาศย้อนยุคอย่างสบาย ๆ มองหาอาคารเรือนแถวที่สร้างตามแบบโคโลเนียล ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมลูกครึ่งฝรั่งผสมจีน ลักษณะอาคารเรียงโค้งกันเป็นแถว และประดับชายคาด้วยแป้นไม้แกะฉลุลวดลายโปร่งตาร้านค้าหลายร้านยังคงสภาพแบบดั้งเดิมไว้ เช่น ร้านตัดผมเรือนไม้, ร้านขายยาจีนแผนโบราณ, บ้านหลวงราชไมตรี ผู้ได้รับฉายา "บิดาแห่งยางพาราภาคตะวันออก" คหบดีแห่งย่านท่าหลวง ซึ่งบุกเบิกการค้ายางพาราในจังหวัดนี้ ตัวบ้านสร้างแบบโคโลเนียล และเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง "โหมโรง" และละคร "อยู่กับก๋ง" ทั้งนี้ แวะร้านไอศกรีม "จรวด" เป็นทั้งร้านอร่อย และโรงงานแรกของจังหวัดที่ใช้เครื่องจักรผลิตไอศกรีมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 เป็นต้นมา ซึ่งยังคงบรรยากาศเก่าแก่ของตัวอาคารแบบโคโลเนียลไว้ และแวะที่ร้านขายของที่ระลึกต่าง ๆ ชื่อร้าน "ทำสี" ที่ขายดี เช่น เสื้อยืด โปสการ์ด แม่เหล็กติดตู้เย็น และของใช้จุกจิก

ตั้งอยู่ในเขตอำเภอแหลมสิงห์ บนเทือกเขาสระบาป มีเนื้อที่ 84,063 ไร่ มีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ และยังสัตว์ป่าต่าง ๆ หลายชนิดเช่น โดยที่มาของชื่อน้ำตกคือคำว่า "พลิ้ว" กล่าวกันว่าเป็นภาษาชอง ซึ่งเป็นเจ้าของถิ่นเดิม แปลว่า ทราย หรือ หาดทราย แต่เข้าใจกันว่าน้ำตกพลิ้วคงจะได้ชื่อมาจากต้นไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งชอบขึ้นในดินปนทราย เป็นไม้เถามีดอกเป็นผลเล็กขนาดลูกเกด สีเหลืองอมแดง ขึ้นทั่วไปในแถบนี้ สำหรับน้ำตกพลิ้วเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำตลอดปี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว

ชายหาดชื่อดังที่ตั้งอยู่ในตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ อยู่ทางทางด้านตะวันออกของอ่าวคุ้งกระเบน และอยู่ก่อนถึงตัวเมืองจันทบุรี 60 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่มีชื่อแห่งหนึ่งของเมืองจันท์ เพราะมีชายหาดที่สวยงาม มีบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว หาดทรายจะเป็นสีแดงละเอียด ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของหาดทรายเมืองจันท์ รวมทั้งหาดทรายของหาดเจ้าหลาวยังทอดยาวไปจดเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน มีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกทำมากมาย เช่น เล่นน้ำทะเล, บานาน่าโบ๊ต, ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งเพียง 2 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีเรือท้องกระจกให้บริการอีกด้วย

เป็นสถานที่สำคัญสำหรับศึกษาค้นคว้าและวิจัย เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมต่อสภาพพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดจันทบุรีโครงการหนึ่งที่ศูนย์ทำขึ้น เพื่อให้ประชาชนที่สนใจเข้ามาศึกษาสภาพธรรมชาติ ก่อให้เกิดความเข้าใจระบบนิเวศในป่าชายเลน และรู้จักใช้ทรัพยากรเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือ สะพานเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน ตั้งอยู่ตรงข้ามศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริใช้เวลาเพียง 30-45 นาที บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 1,600 เมตร มีจุดสื่อความหมายธรรมชาติอยู่ตามบริเวณจุดต่าง ๆ เป็นแหล่งอาหารธรรมชาติ ตลอดจนแหล่งสมุนไพรสำหรับชุมชนที่อาศัยอยู่โดยรอบอีกด้วย  สำหรับที่นี่เปิดทุกวันเวลา 06.30-18.00 น. การเข้าชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อล่วงหน้าที่ศูนย์ศึกษาพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นอกจากนี้ ทางศูนย์ยังมีบริการบ้านพักสำหรับบริการหน่วยงานรัฐที่ไปจัดอบรมสัมมนาโดยติดต่อล่วงหน้า โทรศัพท์ 0 3936 9216-8


"ถนนอัญมณี" หรือ "ตลาดพลอย" ตั้งอยู่ภายในบริเวณถนนศรีจันท์และซอยกระจ่าง นับเป็นถนนเศรษฐกิจของจังหวัด เพราะเป็นที่ตั้งของร้านเจียระไนพลอยและร้านค้าอัญมณีต่าง ๆ ซึ่งอาจนับได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นตลาดค้าพลอยเจียระไนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ในวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. ยังสามารถเห็นบรรยากาศการซื้อขายพลอยของพ่อค้าพลอย ที่เดินทางมาจากที่ต่าง ๆ กันทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้ยังมีการตั้งศูนย์อัญมณีและเครื่องประดับ  (ข้างโรงแรมเค.พี.แกรนด์) ซึ่งสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี ได้ริเริ่มจัดตั้งศูนย์จำหน่ายอัญมณีและเครื่องประดับขึ้นในปี 2546 โดยต้องการให้ศูนย์แห่งนี้เป็นที่จำหน่ายสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่มีคุณภาพของประเทศอย่างแท้จริง สัญลักษณ์ของศูนย์เป็นสถาปัตยกรรมไทยผสมรูปทรงของเหลี่ยมอัญมณีเพื่อสื่อถึงความเป็นเมืองอัญมณี ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามรายะเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 0 3930 3118-9 เปิดบริการทุกวันเวลา 08.00-17.00 น.

โพสต์โดย : ขั้นเทพ ขั้นเทพ เมื่อ 25 ก.ค. 2567 06:56:08 น. อ่าน 26 ตอบ 0

facebook