linepollball.com
Menu

10 ที่เที่ยวกาญจนบุรี ท่ามกลางธรรมชาติ ห้ามพลาดไปชมเด็ดขาด


ที่ที่ยวกาญจนบุรี เข้าจังหวัดกาญจนบุรีมาชื่นชมธรรมชาติ มาเพลินตาไปกับป่าเขียว ภูเขา และลำธารที่สวยงามกันกับที่เที่ยวกาญจนบุรี และที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัย ชอบความสงบที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ไร้สิ่งรบกวนที่จะมาขัดเวลาความสุขของเราให้ลดน้อยลงไปได้ อยู่ใกล้กับกรุงเทพของเราเพียงนี้ ใครๆ ที่อยากพักผ่อนก็สามารถเดินทางมาได้ง่าย ใช้เวลาเพียงไม่นาน


ซึ่งมีระยะทางประมาณ 370 กิโลเมตรอีกด้วย ว่ากันว่า จังหวัดกาญจนบุรี คือ ดินแดนแห่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่า พรรณไม้ และน้ำตก ตลอดจนยังมีวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามมากมายของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ร่วมกันด้วยความเอื้อเฟื้อ เห็นอกเห็นใจ และมีความช่วยเหลือเกื้อกูลกันเป็นอย่างดี ทั้งไทย พม่า มอญ และปากะญอ ( กะเหรี่ยง )

ยิ่งไปกว่านั้น ที่ กาญจนบุรี ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ก่อให้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรีสำคัญที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้มีอนุสรณ์สถานจำนวนมากปรากฏไว้เป็นหลักฐาน อาทิ สะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานทหารสัมพันธมิตร หรือจะเป็นพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด เป็นต้น

ด้วยความที่ กาญจนบุรี เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวหลายคนนึกถึงความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ชื่อดังที่มีมากมาย รวมถึงน้ำตกสวยๆ ที่มีน้ำใสไหลเย็นให้เที่ยวกาญจนบุรีกันเกือบตลอดทั้งปี อีกทั้งมีความสวยงามของขุนเขาและผืนป่าเมืองกาญจน์พรั่งด้วยเสน่ห์เย้ายวนใจเป็นอย่างยิ่ง สุนก! ท่องเที่ยว เลยขอจัด 10 สถานที่ต้องไม่พลาดเมื่อไปเที่ยวกาญจนบุรีมาฝากกัน












1. รำเหย่ย : เป็นการละเล่นพื้นเมืองของชาวกาญจนบุรีที่มักมีขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทย โดยเล่นกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาลราวๆ 500 ปีก่อน วิธีการเล่น คือ ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะยืนล้อมวงกัน มีร้องนำ ร้องแก้ และร้องลูกคู่ อีกทั้งยังมีการร้องรับพร้อมปรบมือเป็นจังหวะ ซึ่งในขณะที่มีการร้องแก้นั้นฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะผลัดกันออกมารำทีละคู่ ผลัดเปลี่ยนกันไป อุปกรณ์มีกลองยาวหนึ่งวง ส่วนการแต่งกายชายนุ่งโจงกระเบน ใส่เสื้อคอกลม มีผ้าขาวม้าพาดไหล่ หญิงแต่งชุดไทยนุ่งสไบเฉียง ปัจจุบันนิยมเล่นกันเฉพาะในอำเภอพนมทวนเท่านั้น 


3. งานวันอาบน้ำแร่แช่น้ำตก : เป็นงานที่มักจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนเช่นเดียวกันกับ งานเทศกาลชาวเรือแพ บริเวณน้ำพุร้อนหินดาด อำเภอทองผาภูมิ ภายในงานจะมีการออกร้านผลิตผลและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รวมถึงนิทรรศการการท่องเที่ยวทองผาภูมิ อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังจะได้อาบน้ำแร่ที่น้ำพุร้อนหินดาดและได้ชมความงดงามของน้ำตกหินดาดอีกด้วย

4. งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว : เป็นงานที่มักจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงช่วงต้นเดือนธันวาคม บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว เพื่อเป็นการรำลึกถึงความสำคัญของการสร้างทางรถไฟสายมรณะและสะพานแม่น้ำแควในช่วงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในงานจะมีนิทรรศการทางประวัติศาสตร์และเนื้อหาทางโบราณคดี  มีการแสดงพื้นบ้าน การออกร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆ รวมถึงกิจกรรมความบันเทิงที่ครบทั้งแสง สี เสียง

จังหวัดกาญจนบุรีนั้นไม่ได้มีความน่าสนใจแค่เรื่องของประวัติศาสตร์อันยาวนานและความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ถ้ามาที่นี่แล้วยังไม่ได้ลองลิ้มชิมรสอาหารพื้นถิ่นของจังหวัดกาญจนบุรีพ่วงไปด้วยก็เหมือนมายังไม่ถึง วันนี้ เราก็เลยมี 3 เมนูอาหารพื้นบ้านมาให้ได้ไปสัมผัสกัน เนื่องด้วยกาญจบุรีมีสภาพภูมิทัศน์ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ แต่ละเมนูก็เลยจะเป็นพืชผักซะส่วนใหญ่ จะมีอะไรบ้าง ลองตามมาดูกัน ! …

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมนูเด็ดจากเมืองกาญจน์เมนูนี้ดีต่อสุขภาพแน่ๆ เพราะวัตถุดิบที่นำมาใช้ปรุงล้วนได้มาจากธรรมชาติแทบจะทั้งหมด จึงการันตีได้ถึงความสด สะอาด ปลอดภัย เพียงปรุงรส เพิ่มความจัดจ้านเข้าไปอีกหน่อยก็ได้อาหารรสเด็ดอีกหนึ่งเมนูที่แนะนำให้ไปชิมกันเมื่อมีโอกาสไปเที่ยวกาญจบุรี

บอกเลยว่าคนที่ชอบลุยต้องไม่พลาดกับการมาเที่ยวกาญจนบุรีดูสักครั้ง คุณจะไม่แปลกใจว่าทำไมทุกครั้งที่เตรียมตัวเที่ยวแล้วกดเข้าไปดูที่พักในจังหวัดกาญจน์ถึงได้มีการจองห้องพักกันเต็มจนแน่นขนาดนั้น เตรียมตัวมาเยือนไว้ได้เลยล่วงหน้า ถือว่าเป็นการใช้เวลาที่มีแต่ความสุขอย่างคุ้มค่าที่สุด อีกทั้งยังได้ความประทับใจจากอัธยาศัยของผู้คนที่นี่ รวมถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์น่ารู้กลับไปฝากคนที่บ้านให้ได้เดินทางมาสมผัสด้วยตัวเอง
มาถึงเมนูพื้นบ้านเมนูที่สองที่อยากจะแนะนำกัน เป็นเมนูอาหารเมืองกาญจน์ที่ใช้วัตถุดิบและการปรุงที่มาจากธรรมชาติคล้ายๆ กับเมนูแรก เพียงแต่ในเมนูนี้จะเน้นให้ “เห็ดโคน” เป็นพระเอกชูโรง เขาว่ากันว่าใครที่แวะไปเที่ยวจังหวัดกาญจบุรีต้องไม่พลาดโดยเด็ดขาด ยิ่งเห็นเห็ดโคนขาโตๆ เนื้อแน่นๆ รสชาติหวานๆ ยิ่งต้องลอง โดยเฉพาะแกงป่าเห็ดโคน แค่ซดน้ำเข้าไปคำแรกก็รับรู้ได้ถึงสัมผัสที่ซู่ซ่าชวนให้ติดใจ จนต้องสั่งชามที่สองเชียวล่ะ
จังหวัดกาญจนบุรีไม่ได้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้ หรือพืชผักต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่ที่นี่ยังมีสัตว์น้ำอีกหลากหลายที่เกิดขึ้นไว้สำหรับเป็นอาหาร อย่างปลาสายพันธุ์ต่างๆ อาทิ ปลาคัง ปลากด ปลายี่สก ปลาแรด ที่ล้วนแล้วแต่สามารถจับได้จากแม่น้ำแควกันแบบสดๆ พร้อมนำมาปรุงอาหารกันให้เห็นเดี๋ยวนั้นในเมนูที่หลากหลาย ไม่ว่าจะชอบต้มยำทำแกงแบบไหน ก็ลองสั่งมาลิ้มชิมรสในแบบอาหารเมืองกาญจน์กันได้ไม่มีเบื่อ

โพสต์โดย : ขั้นเทพ ขั้นเทพ เมื่อ 7 ส.ค. 2567 15:21:43 น. อ่าน 22 ตอบ 0

facebook