อันดับแรกพบว่ากุนซือหงส์แดงคนใหม่อย่าง 'อาว์เหน่อ' จัด 11 ตัวจริงแบบ 'เอาตาย' เรียกว่าจัดทีมเสมือนจริงด้วยขุมพลังที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่
ห้องเครื่องตรงกลางประกอบด้วย กราเฟนแบร์ค, แม็คก้า และ โซโบ ขณะที่ 3 ตัวบน โชต้า หน้าเป้าขนาบด้วย ดิอาซ และ ซาลาห์
3.ลิเวอร์พูล เดินเครื่องเปิดเกมรุกแบบเต็มสูบ เดี๋ยวมาทางซ้าย เดี๋ยวมาทางขวา หน้ากึ่งปีกทั้ง 2 ข้างมีบทบาทสำคัญมาก ลากเลื้อยพลางจู่โจมผู้มาเยือนสนุกสนาน ขณะที่หัวหอกอาจไม่ค่อยมีบทบาทสักเท่าไหร่
ทันใด โซโบ วางบอลให้ โชต้า เอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยซ้ายตุงตาข่าย
ถัดมา ปีกชาวเผ่าจากโคลอมเบียลากตัดเข้าในก่อนโยกหนีคู่แข่งจนเสียหลักแล้วสับด้วยขวาเสียบเสาไกลเข้าประตู
ตบท้ายครึ่งแรก โซโบ ไหลบอลให้ ดิอาซ ชาร์จโล่งๆ ลิเวอร์พูล นำห่าง 3-0
กระทั่งเห็นการทำประตูที่ 4 จากเด็กดาวรุ่งวัยเพียง 17 กะรัตที่พุ่งเข้าตะบันลูกพุ่งตุงตาข่ายแล้วถึงกับอุทานออกมาในสำเนียงสเก๊าเซอร์ว่า...เจ๊ตเข้ !!!
โปรดจงจำชื่อเขาเอาไว้ให้ดี เทรย์ นายโอนี่ ไอ้หนูตัวนี้แม่งมีของ
5. อาร์เน่อ สลอด คุมทีมจริงจัง 4 นัด หงส์แดงยัดเยียดความปราชัยให้ เรอัล เบติส, อาร์เซน่อล, แมนยู และ เซบิย่า คว้าแชมป์อุ่นเครื่องอย่างน่าขามเกรง
รูปแบบการเล่นชัดเจน เกมรุกวูบวาบ ดุดัน สยดสยอง กระทุ้งประตูรวมกันถึง 10 ดอกเน้นๆ
ขอโทษ...นี่ขนาดยังไม่ได้ผู้เล่นใหม่นะครับ
หากได้ มาร์ติน ซูบิเมนดี้ มาเป็นหมายเลข 6 คนใหม่ คิดเอาว่าพวกพรี่ๆ เขาจะน่ากลัวมากขนาดไหน