ข่าวสนุกเกอร์ เมื่อฤดูกาลก่อน สาวกกีฬาแม่นรูคงจำกันได้ดีว่า องค์กรคิวโลกอย่างเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์ (WST) ได้นำรายการเก่าแก่อย่างศึกบริติชโอเพ่น มาจัดการแข่งขันอีกครั้ง หลังหายไปจากสารบบนานถึง 17 ปี นับตั้งแต่ปี 2004
ข่าวสนุกเกอร์ การนำทัวร์นาเมนต์เก่าแก่ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง มาปัดฝุ่นจัดชิงชัยอีกครั้ง ทำให้แฟนสอยคิวจำนวนไม่น้อย ต่างตื่นเต้นไปตามๆกัน โดยเฉพาะแฟนสนุกเกอร์รุ่นเดอะ ที่วาดฝันเอาไว้ว่า บรรยากาศการดวลคิวศึกบริติชโอเพ่น 2021 คงจะคลาสสิคละม้ายคล้ายกับในอดีตอย่างแน่นอน
ทว่าพอถึงเวลาแข่งขันจริง ความคาดหวังทั้งหลายเหล่านี้ ต้องพังครืนไปทันที ไม่มีสิ่งใดในศึกบริติชโอเพ่น 2021 ใกล้เคียงกับเมื่อราวๆ 2 ทศวรรษก่อนเลย พอจบทัวร์นาเมนต์มีแต่เสียงก่นด่าตามมามากมาย
หากยังจำกันได้ ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มไม่กี่วัน การแข่งขันมีแนวโน้มว่าจะไม่ตื่นเต้นอย่างที่ควรจะเป็น เมื่อจู่ๆ “เดอะร็อกเก็ต” รอนนี่ โอซัลลิแวน นักสอยคิวซูเปอร์สตาร์ที่มีแฟนคลับมากที่สุดในโลก แจ้งถอนตัวดื้อๆ ด้วยเหตุผลส่วนตัว ทั้งๆที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้นำรูปของเขา มาโปรโมตในโปสเตอร์ประจำการแข่งขันไปแล้ว
ก่อนที่เวลาต่อมาจะมีการแฉว่า เหตุผลที่ “เดอะร็อกเก็ต” ถอนตัวในครั้งนี้ มาจากการที่เขาติดงานไปแทงโชว์ในช่วงนั้นพอดี จึงไม่สะดวกที่จะลงแข่งศึกบริติชโอเพ่น 2021
ส่งผลให้ รอนนี่ ต้องโดนทัวร์ลงในโลกออนไลน์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในข้อหาเห็นเม็ดเงินจากการแทงโชว์สำคัญกว่าการลงแข่งขันในรายการอาชีพ จนถูกแฟนสนุกเกอร์จำนวนไม่น้อย ตั้งคำถามถึงความเป็นมืออาชีพ แม้จะมีบรรดาแฟนคลับของเจ้าตัว จะช่วยกันออกมาปกป้องก็ตาม
นอกจาก รอนนี่ แล้ว นีล โรเบิร์ตสัน จากออสเตรเลีย และ ติง จุ้น ฮุย จากจีน ก็เป็นอีกสองนักสอยคิวระดับบิ๊กเนม ที่ถอนตัวเช่นกัน โดยในรายของ นีล ถอนตัวเพื่อเตรียมงานวิวาห์ของตัวเอง ขณะที่ ติง มีปัญหาเรื่องการเดินทางจากจีนเข้าอังกฤษ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากโควิด-19
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แฟนสนุกเกอร์รู้ผิดหวังกับศึกบริติชโอเพ่น 2021 ยิ่งกว่าก็คือ รายการนี้ไม่ต่างอะไรกับทัวร์นาเมนต์ในระดับมือสมัครเล่นเลย โดยเฉพาะการแข่งขันในรอบแรก(128 คน) ไปจนถึงรอบ 16 คนสุดท้าย ที่ดวลคิวในระบบ 3 ใน 5 เฟรม ซึ่งเป็นจำนวนเฟรมที่น้อยมาก ส่วนในรอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ดวลคิวกันในระบบ 4 ใน 7 เฟรม, 5 ใน 9 เฟรม และ 6 ใน 16 เฟรมตามลำดับ
แถมการจับสลากประกบคู่ ไม่มีมือวางอีกต่างหาก ใครที่อยู่อันดับท็อป 16 ของโลก มีโอกาสเจอกันตั้งแต่รอบแรกๆ อย่างเช่น มาร์ค เซลบี้ มือ 2 ของโลกในเวลานั้น ต้องเจอกับ ฌอน เมอร์ฟี่ มือ 5 ของโลกตั้งแต่รอบแรก(128 คน) จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า แข่งกันทำอันดับโลกให้สูงไปเพื่ออะไร อีกทั้งการจับสลากประกบคู่ จะจับแบบทุกรอบ โดยนักสนุกเกอร์จะไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า มีโอกาสจะเข้าไปเจอกับใครในรอบลึกๆ
เวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์ได้ออกมากล่าวถึงเหตุผลที่จัดการแข่งขันแบบนี้ว่า เพื่อต้องการความแปลกใหม่ และอยากเห็นแชมป์หน้าใหม่เกิดขึ้นด้วย ทว่าผลที่ออกมา แฟนกีฬาแม่นรูต่างบ่นกันระนาว รวมไปถึงนักสนุกเกอร์ด้วย โดยเฉพาะการจัดการแข่งขันแบบ 3 ใน 5 เฟรม ที่มือดีๆ ต่างพลิกล็อกร่วงรอบแรกๆกันเป็นแถว เพราะเฟรมมันสั้นเกินไป ใครออกตัวไม่ดีหรือเครื่องร้อนช้ามีสิทธิ์หงายท้อง ประกอบกับการจับสลากประกบคู่ ก็ไม่ได้เอาอันดับโลกมาเป็นเกณฑ์ในการจัดมือวางเหมือนรายการอื่น พอมืออันดับท็อปๆของโลกต้องโคจรมาเจอกันในรอบแรกๆ ด้วยระบบแค่ 3 ใน 5 เฟรม การแข่งขันไม่สนุกดั่งที่ควรจะเป็น จึงทำให้ปีแรกของศึกบริติชโอเพ่น นับตั้งแต่นำมาปัดฝุ่นจัดการแข่งขันใหม่อีกหน ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ไม่คลาสสิคและไม่ประสบความสำเร็จดั่งที่ฝ่ายจัดได้คาดหวังเอาไว้
ถึงขนาดมีแฟนสนุกเกอร์จำนวนไม่น้อย ต่างโพสต์ในโลกออนไลน์อย่างเดือดดาลในทำนองที่ว่า องค์กรคิวโลก ได้นำเอาศึกบริติชโอเพ่น มาปู้ยี่ปู้ยำจนเสียชื่อรายการ ความขลังในอดีตต้องถูกทำลายลงอย่างย่อยยับ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ศึกบริติชโอเพ่น 2022 ระหว่างวันที่ 26 กันยายนถึง 2 ตุลาคม ณ มาร์แชลอารีน่า เมืองมิลตันคีนส์ ประเทศอังกฤษ ได้มีการยกเลิกระบบ 3 ใน 5 เฟรมเป็นที่เรียบร้อย
โดยในรอบแรก(128 คน) จนถึงรอบ 16 คน จะดวลคิวกันในระบบ 4 ใน 7 เฟรม จากนั้นในรอบก่อนรองชนะเลิศจะแข่งขันกันในระบบ 5 ใน 9 เฟรม, รอบรองชนะเลิศ 6 ใน 11 เฟรม และรอบชิงชนะเลิศ 10 ใน 19 เฟรม อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่า จะจับสลากประกบคู่โดยไม่มีมือวางเหมือนดั่งปีที่แล้วหรือไม่
